โครงการพัฒนาทักษะสมองเพื่อสุขภาวะเด็กและเยาวชน (Executive Functions Approach) : โครงการพัฒนาพื้นที่บูรณาการการส่งเสริม EF
เป็นโครงการที่มูลนิธิตลาดหลักทรัพย์ฯ ดำเนินงานร่วมกับภาคี สถาบัน RLG (รักลูก เลิร์นนิ่ง กรุ๊ป) และ Thailand EF Partnership เพื่อให้เด็กไทยได้รับการพัฒนาสมองส่วนหน้า ซึ่งเป็นพื้นฐานให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ โดยดำเนินงานแบบบูรณาการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งพื้นที่ ตั้งแต่พ่อแม่ ครู หมอ พยาบาล ผู้นำชุมชน ร่วมมือกัน โดยมีเด็กเป็นตัวตั้งและเป็นเป้าหมายในการพัฒนา

ทำไมต้องพัฒนาทักษะสมอง EF ?

EF หรือ “Executive Functions” “ทักษะสมองเพื่อจัดการชีวิตให้สำเร็จ” คือกระบวนการทำงานของสมองส่วนหน้า ที่ช่วยกำกับความคิด การวิเคราะห์ การตัดสินใจ แก้ปัญหา ควบคุมอารมณ์ วางแผน และทำออกมาเป็นพฤติกรรมเป้าหมายได้ งานวิจัยจำนวนมากชี้ว่า ถ้าเด็กได้รับการพัฒนาทักษะสมอง EF จะมีพัฒนาการด้านต่างๆ ดีขึ้นโดยอัตโนมัติ และจะมีภูมิคุ้มกันชีวิตที่ดี เรียนรู้ได้ดี มีวินัย มีความรับผิดชอบที่จะผลักดันตัวเองไปในทิศทางที่เป็นเป้าหมายของชีวิต

ถ้าจะขยายความแบบนักวิทยาศาสตร์ Executive Functions คือชุดกระบวนการทางความคิด (Mental Process) ที่ช่วยให้เราวางแผน จดจ่อใส่ใจ มีความจำเพื่อใช้งาน และจัดการกับงานหลายๆ อย่างที่ประดังเข้ามาให้ลุล่วงเรียบร้อยได้ สามารถจัดลำดับความสำคัญของงาน วางเป้าหมายเป็นขั้นเป็นตอนจนสำเร็จ รวมทั้งควบคุมแรงอยาก แรงกระตุ้นทั้งหลายไม่ให้ไปนอกลู่นอกทาง เหมือนกับระบบควบคุมในสนามบินที่ต้องจัดการกับเที่ยวบินเข้าออกหลายสิบเที่ยวในเวลาเดียวกัน

ในโลกสมัยใหม่ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว รุนแรงและซับซ้อน พลิกผัน เต็มไปด้วยสิ่งเร้า คนที่มีทักษะ EF ดี จะมีความยับยั้งชั่งใจ สามารถควบคุมกำกับตัวเองได้ ยากที่จะตกเป็นเหยื่อของสถานการณ์ต่าง ๆ รวมถึงมีความสามารถในการปรับตัวรับมือกับสิ่งใหม่ และสามารถแก้ไขปัญหาที่ยากของชีวิตได้ EF จึงเป็นพื้นฐานสำคัญในการดำรงชีวิตให้อยู่รอดปลอดภัยและทำกิจการงานต่างๆ ให้สำเร็จได้

คนที่มีทักษะ EF ดี จะมีความยับยั้งชั่งใจ
สามารถควบคุมกำกับตัวเองได้ ยากที่จะตกเป็นเหยื่อ สามารถปรับตัว
รับมือกับสิ่งใหม่ และสามารถแก้ไขปัญหาที่ยากของชีวิตได้

รู้จักโมเดลต้นแบบพื้นที่บูรณาการส่งเสริม EF

การขับเคลื่อนโครงการเพื่อส่งเสริมทักษะสมอง EF เด็กและเยาวชน ภายใต้การสนับสนุนของมูลนิธิตลาดหลักทรัพย์ฯ ก่อตัวขึ้นอย่างแข็งขันหลายพื้นที่ทางภาคเหนือ ได้แก่ จังหวัดเชียงราย จังหวัดน่าน และลำปาง โดยใช้ต้นแบบจากการดำเนินงานของโรงพยาบาลพญาเม็งราย อ.พญาเม็งราย จ.เชียงราย ซึ่งได้ดำเนินงานส่งเสริมและพัฒนางานแม่และเด็กในพื้นที่ อ.พญาเม็งรายมาอย่างต่อเนื่อง และได้นำองค์ความรู้เรื่องการส่งเสริมทักษะสมอง EF เข้ามาเสริมในการดำเนินงานพัฒนาเด็กปฐมวัยตั้งแต่ปี 2559 โดยมีการทำงานแบบบูรณาการร่วมกันระหว่างผู้เกี่ยวข้องในชุมชนทุกกลุ่ม ทั้งด้านสาธารณสุข การศึกษา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และพ่อแม่ผู้ปกครอง มีทีมสาธารณสุขที่เข้มแข็งจากโรงพยาบาลพญาเม็งรายเป็นแกนนำ

ผลการดำเนินงานที่อำเภอพญาเม็งราย สะท้อนให้เห็นว่าเด็กปฐมวัยในพื้นที่มีทักษะสมอง EF สูงกว่าค่ามาตรฐานระดับประเทศถึง 20% อีกทั้งยังพบว่าเด็กมีระเบียบวินัย รู้จักวางแผนการเล่น ควบคุมอารมณ์ได้ดีขึ้น ขณะเดียวกันพ่อแม่ ผู้ปกครองและชุมชนก็ให้ความสำคัญกับการพัฒนาสมองมากขึ้นอย่างชัดเจน เช่น มีวินัย ไม่แซงคิว รู้จักวางแผนการเล่น ฯลฯ ขณะที่พ่อแม่ผู้ปกครองมีความสนใจเด็กดีขึ้น ตื่นตัวเรื่องการพัฒนาสมอง และรู้ว่าจะพัฒนา EF ให้ลูกได้อย่างไร เช่นเดียวกับครูที่พบความเปลี่ยนแปลงว่าควบคุมอารมณ์ตนเองได้ดีขึ้น จัดการกับเด็กได้ด้วยความสัมพันธ์เชิงบวก เป็นต้น

ขณะที่ชุมชนในพื้นที่มีความเข้าใจพื้นฐานเรื่องเด็กดีขึ้น ฝ่ายปกครองหรือผู้นำชุมชนมีวิสัยทัศน์ร่วมในการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ จัดสรรงบประมาณ จัดกิจกรรมขับเคลื่อนเดินหน้า ทำให้โรงพยาบาลเกิดเครือข่ายสุขภาวะเด็กที่ขยายขึ้น และได้ร่วมกันพัฒนาคู่มือส่งเสริม EF ประกอบกับฝ่ายการศึกษาก็ร่วมสนับสนุน เรียนรู้ และเชื่อมโยงเครือข่าย เปิดพื้นที่ในการพัฒนาเด็กปฐมวัยไปในทิศทางเดียวกัน เกิดเป็นเครือข่ายพลังชุมชนช่วยส่งเสริมกัน

เชียงรายโมเดล: พัฒนาทักษะสมอง สร้างสุขภาวะเด็ก สานพลังสู่สังคมยั่งยืน

จากความสำเร็จของอำเภอพญาเม็งราย ได้มีการขยายพื้นที่ดำเนินโครงการไปจนครบทั้ง 18 อำเภอของจังหวัดเชียงราย และนำไปสู่การสร้างต้นแบบ "เชียงรายโมเดล" มีการบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ตั้งแต่ครู ผู้บริหารการศึกษา เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ไปจนถึงผู้นำระดับจังหวัด เพื่อนำองค์ความรู้เกี่ยวกับทักษะสมอง EF ไปใช้ในการวางแผนและพัฒนาเด็กอย่างเป็นระบบ มีการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ จัดสรรงบประมาณ และผลักดันกิจกรรมที่ส่งเสริมการพัฒนาเด็กต่อเนื่อง

จากการติดตามผลการดำเนินโครงการฯ พบว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงแนวทางในการดูแลเลี้ยงดูเด็ก ส่งผลให้เด็กปฐมวัยกว่าร้อยละ 70 มีระดับทักษะสมอง EF ในระดับดีถึงดีมาก ความสำเร็จในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ได้ขยายผลต่อยอดไปสู่พื้นที่อื่นในภาคเหนือ เช่น จังหวัดน่าน จังหวัดลำปาง และยังเป็นต้นแบบสำหรับจังหวัดอื่นๆ ได้ศึกษาแนวทางการพัฒนาสมองเด็กด้วย การขยายผลนี้เป็นการสร้าง “พื้นที่การพัฒนาเด็กปฐมวัยที่มีทิศทางชัดเจน” กระตุ้นให้เกิดการบูรณาการความร่วมมือจากทุกฝ่ายเพื่อร่วมกันสร้างอนาคตให้กับเด็ก ๆ อย่างมั่นคงและยั่งยืน