จากวิกฤติสู่โอกาสแห่งการพัฒนา
จากวิกฤติการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่ปี 2563 ได้ส่งผลกระทบในวงกว้างและต่อเนื่อง โดยเฉพาะปัญหาการว่างงานและการขาดรายได้ของประชาชนในพื้นที่ต่างจังหวัด “โครงการฝ่าวิกฤติด้วยเศรษฐกิจและสังคมฐานรากให้พัฒนาก้าวไปตามแนวพระราชดำริ” จึงได้เกิดขึ้น โดย มูลนิธิตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้ร่วมกับ มูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ ดำเนินโครงการเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชนฐานรากสามารถฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจและพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน
หัวใจแห่งการพัฒนา: “น้ำ คือ ชีวิต”
โครงการฯ ได้น้อมนำแนวพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ว่า “น้ำ คือ ชีวิต” มาเป็นหลักในการดำเนินงาน โดยเชื่อมั่นว่าการเข้าถึงแหล่งน้ำที่สมบูรณ์ คือจุดเริ่มต้นของการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ และสร้างความมั่นคงทางอาหาร ดังนั้น ภารกิจสำคัญของโครงการฯ จึงมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาและแก้ไขปัญหาโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำ ควบคู่ไปกับการสร้างงาน เพื่อพลิกฟื้นผืนดินที่เคยแห้งแล้งให้กลับมาอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง
หลักการทรงงาน: “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” สู่การลงมือทำจริง
การดำเนินโครงการฯ ยึดมั่นในยุทธศาสตร์พระราชทาน “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อสร้างการพัฒนาที่เกิดจากความต้องการของชุมชนอย่างแท้จริง
-
เข้าใจ: เริ่มจากการลงพื้นที่สำรวจข้อมูล สร้างความเข้าใจในปัญหาและความต้องการของชุมชนโดยเฉพาะพื้นที่ที่ประสบปัญหาภัยแล้งซ้ำซาก และพื้นที่ที่ประสบอุทกภัย
-
เข้าถึง: ทำงานร่วมกับชุมชนอย่างใกล้ชิด สร้างกระบวนการมีส่วนร่วม ให้ชาวบ้านเป็นศูนย์กลางของการพัฒนา
-
พัฒนา: ส่งเสริมให้ชุมชนลงมือปรับปรุง ซ่อมแซม และบริหารจัดการแหล่งน้ำของตนเอง พร้อมต่อยอดสู่การพัฒนาอาชีพด้านการเกษตรทฤษฎีใหม่ เพื่อให้สามารถดำรงชีวิตอยู่รอดได้แม้ในภาวะวิกฤติ
พลังชุมชน: “ระเบิดจากข้างใน” สร้างความเป็นเจ้าของที่ยั่งยืน
โครงการฯ เชื่อมั่นในพลังของชุมชนตามแนวพระราชดำริ “การระเบิดจากข้างใน” ซึ่งเป็นการสร้างความเข้มแข็งจากภายในชุมชนให้เป็นรากฐานที่มั่นคงก่อน โครงการฯ จึงมุ่งสนับสนุนด้านองค์ความรู้ วัสดุ และอุปกรณ์ที่จำเป็น ส่วนพี่น้องประชาชนในพื้นที่จะเป็นผู้ “ร่วมคิด ร่วมวางแผน และร่วมปฏิบัติ” โดยสละแรงงานในการพัฒนาแหล่งน้ำของตนเอง
โมเดลความร่วมมือนี้ไม่เพียงช่วยให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและประหยัด แต่ที่สำคัญคือการสร้างความรู้สึกเป็นเจ้าของในทรัพยากรส่วนรวม ทำให้ชุมชนพร้อมที่จะดูแลรักษาสิ่งที่สร้างมาด้วยน้ำพักน้ำแรงของตนเองต่อไปในระยะยาว
เป้าหมายสูงสุด: ชุมชนพึ่งตนเองได้ พร้อมรับทุกความเปลี่ยนแปลง
โครงการนี้มุ่งหวังให้ชุมชนสามารถยืนหยัดได้ด้วยตนเองอย่างสง่างาม จึงมิได้เพียงแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่วางรากฐานการพัฒนาที่ยั่งยืน สร้างภูมิคุ้มกันให้ชุมชนพร้อมรับมือกับความท้าทายและความเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อนำไปสู่เป้าหมายสูงสุด คือ การมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของประชาชน และการสร้างสังคมไทยให้พูนสุขอย่างแท้จริง